หลายคนที่เคยไปยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์อาจจะเคยผ่านตากับเครื่องเล่นชนิดหนึ่งที่มักพบเจอได้ในบริเวณลานกว้าง หรือบนพื้นที่ตามแนวเขา เป็นเครื่องเล่นที่มีรางเหล็กถูกวางเป็นแนวเส้นทางที่จะนำท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ไปพร้อมกับการควบคุมความเร็วที่บังคับได้เอง โดยเครื่องเล่นนี้มีชื่อว่า “แอลป์ไพน์ โคสเตอร์ (Alpine Coaster)” หรือ “โทบ็อกกัน รัน (Toboggan Run)” ซึ่งในสวิสเซอร์แลนด์นั้นมีเครื่องเล่นประเภทนี้ให้เห็นอย่างหลากหลาย โดยแต่ละพื้นที่จะให้ประสบการณ์ในการเล่นที่ต่างกันออกไป และหนึ่งในสถานที่เล่นโทบ็อกกัน รัน (Toboggan Run) ที่ดีที่สุด นั่นก็คือ “บลูนนี – บาเนิน เอนเกิลเบิร์ก (Brunni – Bahnen Engelberg)” เต็มเปี่ยมไปความงดงามของแนวเขาตลอดเส้นกว่า 660 เมตร
ในส่วนของการเดินทางไปยังบลูนนี – บาเนิน เอนเกิลเบิร์ก (Brunni – Bahnen Engelberg) นั้น มีหลายวิธีไม่ว่าจะด้วยรถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัว สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟนั้นให้ขึ้นจากสถานีจากเมืองลูเซิร์น (Lucerne) มายังสถานีเอนเกิลเบิร์ก (Engelberg) ผ่านการใช้บริการรถไฟสายโกลบี – เอ็กซ์เพลส (Globi Express) หรือรถไฟสายสวิส เฟเดอรัล เรลเวย์ (Swiss Federal Railway: The SBB) ก็ได้ ซึ่งจะเดินทางมาถึงที่หมาย ภายในเวลาประมาณ 45 นาที สำหรับนักท่องเที่ยวในเมืองเอนเกิลเบิร์ก (Engelberg) สามารถใช้บริการรถบัสได้โดยไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม ใช้เวลาในการเดินทางมายังบลูนนี แวลลี สเตชัน (Brunni Valley Station) เพียง 5 นาทีเท่านั้น
สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ A2: บาเซิล – ลูเซิร์น – ก็อททาร์ด (Motorway A2: Basel – Lucerne – Gotthard) เพื่อไปยังสแตนส์ – เซาท์ (Stans – South) ตามเส้นทางหลักด้วยระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่เอนเกิลเบิร์ก (Engelberg) ทางบลูนนี – บาเนิน เอนเกิลเบิร์ก (Brunni – Bahnen Engelberg) มีการเก็บค่าบริการที่จอดรถอยู่ที่วันละ 5 CHF
เมื่อมาถึงที่ บลูนนี – บาเนิน เอนเกิลเบิร์ก (Brunni – Bahnen Engelberg) แล้ว จะพบกับความกว้างใหญ่ บริเวณเนินเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยจุดทำกิจกรรมที่มีให้เลือกเล่น ซึ่งตั๋วจะจำหน่ายเป็นตามรอบ ตั้งแต่ 1 รอบไปจนถึง 50 รอบในราคาที่แตกต่างกัน ราคาเริ่มต้นสำหรับ 1 รอบ จะอยู่ที่ 5 CHF เท่านั้น หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วจะต้องเดินขึ้นไปยังสถานีโทบ็อกกัน รัน (Toboggan Run) โดยท่านจะได้นั่งบนบอร์ดโดยจำกัดให้เล่นได้แค่ 1 คนต่อบอร์ด สำหรับเด็ก ๆ ที่มากับผู้ปกครอง สามารถพาน้อง ๆ นั่งเล่นในบอร์ดเดียวกันได้เลย
เมื่อได้นั่งบนบอร์ดเลื่อนแล้วจะเห็นว่าตรงกลางจะมีเกียร์ที่ใช้สำหรับการควบคุมความเร็ว ถ้าอยากเคลื่อนบอร์ดด้วยความเร็วสามารถดันเกียร์ไปข้างหน้าจนสุด ซึ่งความเร็วสูงสุดจะอยู่ที่ 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง เริ่มแรกจากจุดสตาร์ทจะเห็นบรรยากาศที่ถูกบดบังด้วยกำแพงไม้ ก่อนที่จะลอดผ่านอุโมงค์ออกมาเจอกับธรรมชาติ ทำให้ท่านจะได้เห็นวิวเนินเขาสีเขียวไกลสุดตา รวมถึงยอดเขาปกคลุมหิมะที่ถูกล้อมรอบด้วยท้องฟ้าโปร่งโล่ง ราวกับว่ากำลังโบยบินอยู่บนฟ้าแห่งสวิสเซอร์แลนด์ เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้ด้วยการเพิ่มเส้นทางสุดระทึกให้ตื่นใจเล่น ๆ ทั้งเส้นทางลอดใต้สะพาน หรือจะเป็นโค้งสุดหวาดเสียวที่มีมากถึง 8 โค้ง ทำให้รู้สึกใจเต้นแรงกันไปอยู่ไม่น้อย ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อเล่นโทบ็อกกัน รัน (Toboggan Run) ด้วยความเร็วที่มากก็ให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แค่ความสวยงามของสภาพแวดล้อมของภูเขา ท้องฟ้า และผืนหญ้ารอบ ๆ ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การมาที่นี่แล้ว
สำหรับโทบ็อกกัน รัน (Toboggan Run) ของบลูนนี – บาเนิน เอนเกิลเบิร์ก (Brunni – Bahnen Engelberg) จะเปิดให้บริการเฉพาะในช่วงฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น และในแต่ละเดือนจะมีวันและช่วงเวลาในการให้บริการที่แตกต่างกัน ส่วนฤดูกาลอื่นนั้น หากนักท่องเที่ยวต้องการไปทำกิจกรรม สามารถไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมไนท์ สกีอิง (Night Skiing) การบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อชมวิว 360 องศากับกิจกรรมพาราไกล์ดิง (Paragliding) การเดินทางตามหายักษ์แห่งภูเขาน้ำสูงของเด็ก ๆ ในกิจกรรมเยติ พาร์ค (Yeti Park) สำหรับฤดูหนาว หรือในช่วงฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูใบไม้ร่วงที่อยากลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ สามารถลองเข้าร่วมได้ อาทิ การกิจกรรมแบร์ฟูท เทลสัมผัสธรรมชาติในระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร (Barefoot Tail) การออกกำลังขาผ่านการปั่นจักรยานจากเอนเกิลเบิร์ก (Engleberg) ไปยังริสติส (Ristis) หรือการปิกนิก (Picnic) ผ่านจุดบริการปิกนิกมากถึง 8 จุดที่บลูนนี – บาเนิน เอนเกิลเบิร์ก (Brunni – Bahnen Engelberg)
โทบ็อกกัน รัน (Toboggan Run) ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยแม้แต่น้อย เพราะนอกจากจะได้ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้ลองมาก่อนแล้ว ด้วยบรรยากาศธรรมชาติของสวิสเซอร์แลนด์ยิ่งทำให้โทบอกกัน รัน (Toboggan Run) กลายเป็นกิจกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน ตลอดเส้นทางกว่า 660 เมตรจะไม่มีความน่าเบื่อ เพราะแค่ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติแค่การเล่นเพียงรอบเดียวอาจจะยังไม่พอ การที่ได้เล่นในรอบถัดไปเพื่อเติมเต็มประสบการณ์หรือแม้แต่การได้สูดอากาศบริสุทธิ์อีกครั้งคงดีไม่น้อย
